Wedding Gowns

ชุดแต่งงาน

 ชุดแต่งงานเป็นชุดที่สวยที่สุด พิเศษที่สุด และเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงวันสำคัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต ไม่ว่าชุดแต่งงานนั้นจะเป็นชุดที่ได้รับมาจากมารดา หรือเป็นชุดที่เลือกมาเป็นพิเศษสำหรับเจ้าสาว เป็นชุที่มีความสดใส ทันสมัย หรือเรียบหรู แต่ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งงานแบบใด การดูแลรักษาและจัดเก็บชุดแต่งงานนี้เป็นเรื่องไม่ควรละเลย เพราะชุดแต่งงานเป็นสเมือนสิ่งที่เตือนความทรงจำถึงวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต

Choosing a wedding dress

วิธีการเลือกชุดแต่งงาน

ที่ปรึกษาในการจัดงานแต่งงาน หรือ wedding planner มักจะแนะนำว่า ว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวที่จะซื้อชุดแต่งงานควรจะเลือกซื้อชุดแต่งงานล่วงหน้าไม่น้อยกว่า6เดือนก่อนที่จะถึงวันแต่งงาน เพราะจะได้มีเวลาในการเลือกสไตล์ของชุด เนื้อผ้า และวัสดุตกแต่งต่างๆที่ปักหรือติดบนชุดแต่งงานให้เหมาะสมกับผู้สวมใส่ อีกทั้งยังเป็นการให้เวลากับผู้ผลิตหรือทางร้านตัดเย็บ ให้สามารถจัดทำหรือแก้ไขชุดแต่งงานที่แสนพิเศษได้อย่างปราณีต เรียบร้อย แต่ถ้าชุดแต่งงานที่จะสวมใส่เป็นชุดที่ได้รับเป็นมรดกตกทอด ควรจะเผื่อเวลาในการทำความสะอาดและตกแต่งให้มีสภาพเหมือนชุดใหม่

ในปัจจุบัน ชุดแต่งงานถูกออกแบบให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ชุดเจ้าสาวมักจะทำจากผ้าซาติน ผ้าแพรแข็ง ผ้าไหมแก้ว ผ้าตาด และผ้าปัก นอกจากนั้นยังเย็บปักถักร้อยด้วยวัสดุตกแต่ง เช่น ลูกปัด ไข่มุก และเลื่อม ถ้าชุดเจ้าสาวมีวัสดุตกแต่งเหล่านี้ ควรถามผู้ปักเย็บว่าวัสดุที่นำมาปักเย็บนั้น สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีการซักแห้งได้หรือไม่ เพราะในบางครั้งวิธีการปักหรือติดวัสดุเหล่านั้น รวมถึงวัสดุตกแต่งต่างๆ อาจจะไม่ทนต่อน้ำยาหรือสารเคมีที่ใช้ในการซักแห้ง จึงควรตรวจสอบเพื่อมั่นใจได้ว่าชุดเจ้าสาวจะไม่เสียหายจากการทำความสะอาด

หลังจากที่เลือกชุดแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เครื่องประดับอื่นๆที่จะทำให้ชุดเจ้าสมบูรณ์แบบก็เป็นสิ่งที่เจ้าสาวไม่ควรละเลย ควรตัดสินใจว่าจะใส่ผ้าคลุมหน้าหรือหมวกดีหรือไม่ ความสูงของส้นรองเท้าควรจะสูงเท่าไร ควรจะใส่ถุงมือหรือไม่ และควรจะถือดอกไม้แบบใด ว่าที่เจ้าสาวควรออกแบบและเลือกทุกสิ่งทุกอย่างให้เหมาะสมกับผู้สวมใส่เพื่อทำให้ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตสมบูรณ์แบบที่สุด

Caring for your gown after the wedding

การดูแลรักษาชุดแต่งงานหลังจากการใช้

เจ้าสาวส่วนมากต้องการที่จะเก็บรักษาชุดเจ้าสาวของตนเองไว้หลังจากสวมใส่ในวันแต่งงาน หรืออาจจะส่งต่อให้กับบุตรสาวในวันสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมซักผ้าได้ให้คำแนะนำไว้ว่า ควรจะทำความสะอาดชุดเจ้าสาวก่อนที่จะจัดเก็บชุดเจ้าสาว เนื่องจากชุดเจ้าสาวอาจจะมีรอยเปื้อนที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากคราบอาหาร เครื่องดื่ม หรือไขมันจากร่างกาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดคราบเหลืองฝังแน่นบนเนื้อผ้า และยากต่อการทำความสะอาด โดยอาจทำความสะอาดด้วยวิธีการซักแห้ง แต่ข้อควรระวัง คือ ชุดเจ้าสาวส่วนใหญ่ประกอบด้วยวัสดุตกแต่งต่างๆที่อาจจะไม่คงทนต่อขั้นตอนในการซักแห้ง

ลูกปัดและกากเพชร ที่ติดด้วยกาวบนชุดเจ้าสาวอาจจะไม่คงทนต่อการซักแห้ง ซึ่งอาจจะผลให้เกิดการหลุดหายได้ ลูกปัดบางชนิดที่มีลักษณะคล้ายไข่มุกส่วนมาก มักจะผลิตจากพลาสติกประเภทพอลิสไตรีน (polystyrene หรือ PS) ซึ่งอาจถูกทำละลายจากสารเคมีที่ใช้ในการซักแห้งได้ วิธีหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เกิดจากการซักแห้งอาจทำได้โดยใช้วัสดุที่ทนต่อการซักแห้งคลุมเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับน้ำยาซักแห้ง แต่สีของลูกปัดอาจจะซีดลงหลังการทำความสะอาด

เลื่อม อาจจะปักหรือติดกับชุดเจ้าสาวด้วยกาวซึ่งไม่คงทนต่อการซักแห้ง ซึ่งอาจจะผลให้เกิดการหลุดหายได้เช่นกัน เลื่อมบางชนิดอาจมีสารเคลือบผิวที่ทำให้เกิดความแวววาวซี่งอาจถูกทำละลายได้ด้วยน้ำยาซักแห้ง หรืออาจจะไม่ทนต่อความร้อนในระหว่างขั้นตอนการทำความสะอาด ส่งผลให้เกิดการโค้งงอ เลื่อมส่วนใหญ่มักจะร้อยด้วยเส้นด้ายก่อนนำไปปัก หากเส้นด้ายที่ร้อยไว้ขาด ในระหว่างขั้นตอนการทำความสะอาดก็อาจทำให้เลื่อมหลุดหายได้

วัสดุตกแต่งอื่นๆ ที่อาจติดบนชุดเจ้าสาวด้วยกาว ซึ่งอาจไม่คงทนต่อกระบวนการการซักแห้ง ควรจะทำการถอดออกหรือแยกออกก่อนนำไปทำความสะอาด

ชุดแต่งงานหรือชุดเจ้าสาวควรมีคำแนะนำในการทำความสะอาดและการดูแลรักษาระบุไว้ในฉลากอย่างชัดเจน และคำแนะนำนั้นควรครอบคลุมไปถึงวัสดุตกแต่งต่างๆที่ติดลงบนผ้า ไม่ควรทำความสะอาดชุดแต่งงานที่ไม่มีป้ายฉลากโดยพละการ แต่ควรส่งกลับไปยังร้านค้าเพื่อสอบถามข้อมูลในการดูแลรักษาและทำความสะอาด

Special care instructions

คำแนะนำในการดูแลรักษา

ชุดแต่งงานบางประเภทอาจมีความแนะนำหรือวิธีการในการทำความสะอาดมากกว่าหนึ่งวิธี หรืออาจมีข้อมูลจำเพาะเช่น เบอร์หรือที่อยู่ของบริษัทห้างร้านที่ต้องส่งไปทำความสะอาด โดยค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดอาจจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายจากร้านซักรีดทั่วไป แต่ถ้าหากไม่ต้องการส่งไปที่ร้านตามที่ทางผู้ผลิตหรือตัดเย็บจำเพาะเจาะจง ก็สามารถนำชดแต่งงานไปทดสอบทีร้านทั่วไปเพื่อดูว่าสามารถทำความสะอาดได้หรือไม่

 

Storing you gown

การจัดเก็บชุดแต่งงาน

ผู้ประกอบการธุรกิจซักแห้งบางร้าน อาจจะทำการจัดเก็บชุดแต่งงานหลังการซักรีดในกล่องแบบพิเศษ ซึ่งสะดวกและป้องกันฝุ่นละอองต่างๆ แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีขั้นตอนที่สามารถรับประกันได้ว่า ชุดแต่งงานจะไม่มีคราบเหลือง หรือสามารรักษาเครื่องประดับตกและเส้นใยได้ในสภาพเดิม

ชุดแต่งงานควรจะเก็บในบริเวณที่ไม่ร้อนและแห้ง ไม่ควรเก็บในชั้นใต้ดินหรือห้องใต้หลังคา เนื่องจากความชื้นในชั้นใต้ดินอาจจะทำให้เกิดเชื้อรา และความร้อนจากห้องใต้หลังคาอาจทำให้เกิดคราบเหลืองบนเส้นใย ถ้าจะเก็บชุดแต่งงานด้วยการแขวน ควรเย็บสายรัดบริเวณเอวสำหรับแขวน เพื่อช่วยลดการรับน้ำหนักบริเวณไหล่ของชุดกระโปรง สายรัดควรสั้นกว่าเสื้อท่อนบนเล็กน้อย และควรหาวัสดุคลุมเพื่อป้องกันไม่ให้ชุดเปรอะเปื้อน แต่ไม่ว่าจะเป็นการเก็บชุดในกล่องหรือการแขวน ส่วนเสื้อท่อนบนควรซับด้วยกระดาษชำระสีขาว หรือกระดาษรอง เพื่อป้องการไม่ให้ชุดยับย่น

วัสดุอื่นๆเช่นกระดุม หมุด หรือแผ่นฟองน้ำซับใน ควรถอดออก และเก็บแยกจากชุดแต่งงาน เพราะวัสดุเหล่านี้อาจทำให้เกิดดรออกซิไดซ์ และทำให้เกิดคราบเหลืองบนเส้นใยได้ และควรใช้ความระมัดระวังวัสดุที่ใช้ประดับศรีษะผ้าคลุมหน้า เพราะสิ่งของเหล่านี้อาจแตกหักได้ง่าย

ในบางกร ณีวัสดุตกแต่งที่ปักหรือติดบนเสื้อผ้าอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เนื่องจากเกิดการออกซิไดซ์ วัสดุตกแต่งสีอ่อน เช่น สีงาช้าง หรือสีครีมอาจซีดหรือจางหายไป และอาจทำให้สีไม่เข้ากันกับชุดกระโปรง ซี่งมีสาเหตุเกิดมาจาก สีตกระหว่างการทำความสะอาด เนื่องจากสีย้อมที่ไม่ติดคงทน และวิธีในการทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม

เส้นใยส่วนมากมักจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ โดยปกติคราบเหลืองนี้สามารถกำจัดได้ด้วยการทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง หรืออาจจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อของคำแนะนำในการทำความสะอาด นอกจากนั้นคราบสกปรกที่ไม่ปรากฏให้เห็นในการทำความสะอาด ก็อาจจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ชุดแต่งงานเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นจึงควรใส่ใจในการเลือกและการดูแลรักษาทั้งก่อนและหลังการแต่งงาน